platonic ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า platonic ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ platonic ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า platonic ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง เรื่องไร้สาระ, ฉันพี่น้อง, สงบ, ความเป็นพี่น้อง, ทฤษฎี หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า platonic

เรื่องไร้สาระ

ฉันพี่น้อง

สงบ

ความเป็นพี่น้อง

ทฤษฎี

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

My platonic coworker buddy, who's a girl, but just a friend.
เพื่อนร่วมงานที่ผูกพันกันฉันมิตร เธอเป็นหญิง แต่เป็นแค่เพื่อน
Third thing that Howard did, and perhaps the most important, is Howard confronted the notion of the Platonic dish.
อย่างที่สาม ที่ตาโฮเวิร์ดได้ทํา และอาจจะเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด คือตาโฮเวิร์ดเผชิญหน้ากับความเชื่อ เรื่องอาหารล้ําเลิศหนึ่งเดียว (เสียงหัวเราะ)
Who were these “Platonizing Fathers”?
“พวก นัก เขียน ที่ รับ เอา คํา สอน ของ เพลโต” เหล่า นี้ คือ ใคร?
Art, in the Platonic sense, is truth; it's beauty, and love.
ศิลปะ ตามแนวคิดของเพลโตแล้ว คือความจริง คือความงาม และความรัก
20, 21. (a) What was the position of the early Christians regarding Platonic, or Greek, philosophy?
20, 21. (ก) จุด ยืน ของ คริสเตียน สมัย แรก เป็น เช่น ไร เกี่ยว กับ หลัก ปรัชญา ของ เพลโต หรือ ปรัชญา กรีก?
So something which is trash, which is choking all the seabirds, you could just recycle this into a very, very joyous -- all the platonic solids can be made with things like this.
ดังนั้นบางอย่างที่เป็นขยะ ซึ่งทําให้นกทะเลหายใจไม่ออก คุณสามารถนํากลับมาใช้ได้อีกด้วยวิธีที่น่าสนุกมากๆ สิ่งนี้สามารถสร้างทรงตันเพลโตทั้งหมดในวิทยาศาสตร์ได้เช่นนี้
22 While the idea of the immortality of the soul in Judaism and Christendom is due to Platonic influence, the concept was built into Islam from its beginning.
22 ใน ขณะ ที่ แนว คิด เรื่อง อมตภาพ ของ จิตวิญญาณ ใน ศาสนายิว และ คริสต์ ศาสนจักร ปรากฏ ขึ้น เนื่อง จาก รับ อิทธิพล ของ ปรัชญา แบบ เพลโต แต่ แนว ความ คิด นี้ ถูก ก่อ ขึ้น ใน ศาสนา อิสลาม ตั้ง แต่ ตอน เริ่ม ต้น ของ ศาสนา นี้.
The philosophy that suited them best was Platonism [the teachings of Plato].” —The New Encyclopædia Britannica (1988), Volume 25, page 890.
ปรัชญา ที่ เหมาะ กับ พวก เขา มาก ที่ สุด คือ ปรัชญา ของ เพลโต.”—สารานุกรม บริแทนนิกา ฉบับ ใหม่ (1988) เล่ม 25 หน้า 890
(Colossians 1:15; Revelation 3:14) According to religious historian Augustus Neander, Origen arrived at the concept of “eternal generation” through his “philosophical education in the Platonic school.”
; วิวรณ์ 3:14, ล. ม.) ตาม ที่ เอากุสตุส เนอันเดอร์ นัก ประวัติศาสตร์ ด้าน ศาสนา กล่าว ออริเกน ได้ แนว ความ คิด เรื่อง “การ กําเนิด นิรันดร์” มา โดย “การ ศึกษา ปรัชญา ใน สํานัก เพลโต.”
Consider the answer provided by theologian Werner Jaeger in The Harvard Theological Review back in 1959: “The most important fact in the history of Christian doctrine was that the father of Christian theology, Origen, was a Platonic philosopher at the school of Alexandria.
ขอ พิจารณา คํา ตอบ ที่ นัก เทววิทยา เวอร์เนอร์ เยกเกอร์ ให้ ไว้ ใน หนังสือ เดอะ ฮาร์เวิร์ด ทีออลอจิคัล รีวิว ย้อน หลัง ไป ใน ปี 1959 ว่า “ข้อ เท็จ จริง สําคัญ ที่ สุด ใน ประวัติ เกี่ยว กับ คํา สอน คริสเตียน นั้น คือ ข้อ ที่ ว่า ออริเกน ผู้ ให้ กําเนิด เทววิทยา คริสเตียน เป็น นัก ปรัชญา แบบ เพลโต ณ สํานัก ศึกษา แห่ง อะเล็กซานเดรีย.
Concerning Jesus, Miguel de Unamuno, a prominent 20th-century Spanish scholar, wrote: “He believed rather in the resurrection of the flesh, according to the Jewish manner, not in the immortality of the soul, according to the [Greek] Platonic manner. . . .
เกี่ยว กับ พระ เยซู มิเกล เดอ อูนามูโน ผู้ คง แก่ เรียน ที่ โดด เด่น ชาว สเปน ใน ศตวรรษ ที่ 20 เขียน ไว้ ดัง นี้: “พระองค์ เชื่อ ใน การ กลับ เป็น ขึ้น จาก ตาย ของ เนื้อหนัง ตาม คํา สอน ของ ชาว ยิว ไม่ ใช่ ใน เรื่อง สภาพ อมตะ ของ จิตวิญญาณ ตาม คํา สอน ของ เพลโต [ชาว กรีก]. . . .
By creating a unique synthesis of Platonic philosophy and biblical tradition, Philo [a first-century Jewish philosopher of Alexandria] paved the way for later Christian thinkers.”
โดย การ ผสมผสาน แบบ ที่ ไม่ เหมือน ใคร ของ ปรัชญา แบบ พลา โต กับ คํา สอน จาก พระ คัมภีร์ ฟิโล [นัก ปราชญ์ ชาว ยิว แห่ง อะเล็กซานเดรีย ใน ศตวรรษ แรก] ได้ เตรียม ทาง ไว้ สําหรับ คน ช่าง คิด ที่ เป็น คริสเตียน รุ่น หลัง.”
The five Platonic solids.
ห้าทรงตันของเพลโต
When preaching in Athens, the very heart of Greek culture, the apostle Paul did not teach the Platonic doctrine of the soul.
เมื่อ ประกาศ ใน กรุง เอเธนส์ ศูนย์กลาง แห่ง วัฒนธรรม กรีก ที เดียว อัครสาวก เปาโล มิ ได้ สอน คํา สอน ของ พลาโต ใน เรื่อง จิตวิญญาณ.
“By creating a unique synthesis of Platonic philosophy and biblical tradition,” says the book Heaven—A History, “Philo paved the way for later Christian [as well as Jewish] thinkers.”
หนังสือ ชื่อ สวรรค์—ประวัติศาสตร์ ตอน หนึ่ง (ภาษา อังกฤษ) กล่าว ว่า “โดย การ ผสม ผสาน แบบ ที่ ไม่ เหมือน ใคร ของ ปรัชญา แบบ เพลโต กับ คํา สอน จาก พระ คัมภีร์ ฟีโล ได้ เตรียม ทาง ไว้ สําหรับ คน ช่าง คิด ที่ เป็น คริสเตียน [รวม ทั้ง ชาว ยิว] รุ่น หลัง.”
By the time Islam came into existence, Judaism and Christendom were infiltrated with the Platonic concept of the soul.
ใน เวลา ที่ ศาสนา อิสลาม เกิด ขึ้น นั้น แนว ความ คิด แบบ เพลโต ใน เรื่อง จิตวิญญาณ ได้ แทรกซึม เข้า มา ใน ศาสนา ยิว และ คริสต์ ศาสนจักร.
A simple, platonic hug could instantaneously take on a more amorous meaning.”
การ สวมกอด กัน ธรรมดา ๆ อาจ ทํา ให้ เกิด ความ รู้สึก ทาง เพศ ได้ ใน ชั่ว พริบ ตา.”
In a strictly platonic way?
ผมหมายถึงเพื่อนจริง ๆ
It has been noted that “the Christian Platonists gave primacy to revelation and regarded Platonic philosophy as the best available instrument for understanding and defending the teachings of Scripture and church tradition.”
มี การ ให้ ข้อ สังเกต ว่า “คริสเตียน ที่ เป็น นัก ปรัชญา เพลโต ให้ ความ สําคัญ แก่ การ เปิด เผย ของ พระเจ้า เป็น อันดับ แรก และ ถือ ว่า ปรัชญา เพลโต เป็น เครื่อง มือ ดี ที่ สุด ที่ มี อยู่ เพื่อ การ เข้าใจ และ ปก ป้อง คํา สอน ใน พระ คัมภีร์ และ คํา สอน สืบ ปาก ของ คริสตจักร.”
I don't care if it's platonic.
ฉันไม่สนใจว่ามันจะเป็นหัวใจ
According to The New Encyclopædia Britannica, Augustine’s “mind was the crucible in which the religion of the New Testament was most completely fused with the Platonic tradition of Greek philosophy; and it was also the means by which the product of this fusion was transmitted to the Christendoms of medieval Roman Catholicism and Renaissance Protestantism.”
ตาม ที่ สารานุกรม บริแทนนิกา ฉบับ ใหม่ (ภาษา อังกฤษ) กล่าว “จิตใจ ของ เอากุสติน เป็น เบ้า หลอม ซึ่ง ศาสนา แห่ง พันธสัญญา ใหม่ ถูก ผสม เป็น เนื้อ เดียว กัน อย่าง สมบูรณ์ ยิ่ง กับ คํา สอน ของ เพลโต ใน หลัก ปรัชญา กรีก; และ จิตใจ เขา ยัง เป็น เครื่อง มือ ที่ ส่ง ผ่าน ผล ผลิต จาก การ หลอม รวม นี้ ไป ยัง คริสต์ ศาสนจักร ของ นิกาย โรมัน คาทอลิก ใน ยุค กลาง และ นิกาย โปรเตสแตนต์ ใน ยุค เรเนซองซ์.”
22 The idea of the immortality of the soul in Judaism and Christendom appeared because of Platonic influence, but the concept was built into Islam from its beginning.
22 แนว คิด เรื่อง สภาพ อมตะ ของ จิตวิญญาณ ใน ศาสนา ยิว และ คริสต์ ศาสนจักร ปรากฏ ขึ้น เนื่อง จาก อิทธิพล ของ ปรัชญา แบบ เพลโต แต่ แนว ความ คิด นี้ ถูก ก่อ ขึ้น ใน ศาสนา อิสลาม ตั้ง แต่ ตอน เริ่ม ต้น ของ ศาสนา นี้.
Jewish theologians likewise began to demonstrate “strong influences of Platonism” in their writings. —Encyclopædia Judaica.
นัก เทววิทยา ชาว ยิว ได้ เริ่ม ต้น แสดง ออก เช่น กัน ถึง “อิทธิพล อัน แข็ง แกร่ง ของ ปรัชญา พลาโต” ใน บท ประพันธ์ ของ เขา.—เอ็นไซโคลพีเดีย จูดาอิกา.
They had a Platonic notion of what tomato sauce was.
เคยมีความเชื่อ ความเชื่อแบบเลิศล้ําหนึ่งเดียว เกี่ยวกับซอสมะเขือเทศ
Purely platonic.
แน่นอน แบบเพื่อนนะ

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ platonic ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว